ได้อ่าน ดู ชม เรื่องราวเหล่านี้มาเยอะ มาก ๆ
ไม่ว่าจะเป็น
********
********
หรือล่าสุดก็เป็น
ชาวญี่ปุ่น ชื่อคุณ "โอโตทาเกะ ฮิโรทาดะ" กับหนังสือชื่อ
โดย พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก (พระชาวญี่ปุ่น ในไทย หลายท่านอาจรู้จัก)
ได้เขียนเล่าเรื่องของชายคนนี้ว่า
... ฮิโรทาดะ โอโตตาเกะ ชายชาวญี่ปุ่นเกิดที่โตเกียว
โอโตตาเกะเล่าว่า
วันแรกที่หมออนุญาตให้แม่ของเขาได้พบกับเขาเป็นครั้งแรกหลังจากที่คลอดเขาออกมาได้ 3 สัปดาห์
ทางโรงพยาบาลเตรียมการไว้พร้อม
เตรืยมเตียงว่างไว้หนึ่งเตียง เผื่อกรณีที่แม่เห็นเขาแล้วเกิดเป็นลมไปด้วยความตกใจ
ทุกฝ่ายเคร่งเครียดกันไปหมด
ทั้งทางโรงพยาบาลพ่อและแม่ของเขา
แต่ปรากฎว่าประโยคแรกที่คุณแม่เขาอุทานเมื่อได้เห็นหน้าลูกเป็นครั้งแรกคือ
เธอช่างเป็นเด็กน่ารักเหลือเกิน
อารมณ์ครั้งแรกที่คุณแม่มีต่อโอโตตาเกะไม่ได้เป็นอารมณ์ของการตกใจหรือเศร้าโศก
แต่เป็นอารมณ์ของความปีติยินดีที่มีต่อตัวลูก
ความรักที่ถ่ายทอดจากแม่มาสู่เขาเป็นพลังผลักดันให้เขาสามารถพิสูจน์ว่าเขาไม่ได้แต่แตกต่างจากคนอื่น
พ่อแม่ เลี้ยงดูโอโตตาเกะให้เป็นเด็กที่เข้มแข็งมาตั้งแต่เล็กๆ ไม่ให้หนีหน้าจากสิ่งต่างๆ
โดยเอาความพิการเป็นข้ออ้าง
ไม่ให้คิดว่าความพิการเป็นปมด้อย
โอโตตาเกะ จึงเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ
พยายามทำสิ่งต่างๆ ให้ได้้ด้วยตัวเอง
เขียนหนังสือได้
ใช้คอมพิวเตอร์เป็น
เล่นกีฬาได้หลายอย่าง
เขานั่งรถเข็นที่ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ไปไหนมาไหนได้โดยไม่ต้องพึ่งพาใคร
เรียนหนังสือจนจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยชั้นนำโดยไม่ต้องใช้อภิสิทธิ์ใดๆเลย
โอโตตาเกะ ไม่ได้มองว่าการไม่มีแขนขาเป็นปมด้วย
แต่เขากลับมองในแง่บวกว่าสิ่งนี้ต่างหากที่เป็นจุดแข็งของเขาที่ไม่มีใครเหมือน
เขาไม่เคยโทษโชคชะตาฟ้าลิขิตที่สร้างเขามาให้มีรูปร่างไม่สมประกอบ
ไม่เคยคิดฆ่าตัวตาย
แต่กลับภูมิใจในสิ่งที่ตนเป็น
เขามีความคิดว่าโลกนี้ไม่ควรมีพรมแดนและสิ่งกีดขวางระหว่างมนุษย์ด้วยกัน
เพียงเพราะคนใดคนหนึ่งเกิดมาพิการ เท่านั้น
ทุกครั้งที่รับรู้เรื่องราวเหล่านี้ แล้ว กลับมามองย้อนตัวเอง ก็พบว่า ตัวเองช่างอ่อนด้อย
ช่างไร้เดียงสา ช่างใช้ชีวิตอย่างไม่รู้คุณค่า ช่างทุเรศเสียนี้กระไร
สิ่งเหล่านี้ มีเพื่อให้ตัวเอง พัฒนา ตัวเอง
ทุกครั้งที่อ่านบทความพวกคนด้้อยโอกาสหรือคนพิการมักจะีรู้สึกว่า โลกมักไม่ยุติธรรม ให้คนนู้นคนนี้ไม่เท่ากัน บางคนเกิดมาพร้อมสมบูรณ์ ทั้งหน้าตา รูปร่าง ชาติตระกูล แต่บางคนกลับไม่มีอะไร แม้แต่ร่างกายยังไม่สมบูรณ์
ตอบลบสำหรับบทความนี้ รู้สึกแตกต่างออกไป รู้สึกชื่นชมในความเป็นแม่ที่เลี้ยงดูลูกได้เข้มแข็งขนาดนี้ รู้สึกชื่นชมในการคิดบวกของโอโตตาเกะ จนทำให้เขาประสบความสำเร็จมากมาย "ไม่มีใครเฟอร์เฟ็กส์" คงจะจริง แม้จะสมบูรณ์พร้อมจากภายนอก แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าภายในใจเขาเป็นอย่างไร???
แปลกที่ว่า คนเหล่านี้ เขาไม่รู้สึกว่า ตัวเอง "ด้อย" เลยนะ ว่าไหม
ลบการจะดูภายในได้ ก็คงดูจากการกระทำ กระมัง
ได้อ่านบทความนี้แล้วทำให้หนูหันมามองตัวเองว่า ทั้งๆๆที่ร่างกายหนูสมประกอบแท้ๆแต่กลับใช้ชีวิตโดยที่ไม่เห็นคุณค่าของมันเลย ซึ่งต่างจากคนที่เค้าไม่สมประกอบเค้าเหล่านี้ต้องการโอกาสหลายๆอย่างที่หนูได้ แต่หนูกลับมองข้ามมันไปและไม่สนใจอะไรเลยด้วยซ้ำ พออ่านแล้วทำให้หนูคิดได้ว่าชีวิตคนเราไม่มีสิทธิ์เลือกเกิดได้ ไหนๆก็ได้เกิดมาแล้วควรจะใช้ชีวิตให้มีค่าและคุ้มค่ากับที่บุพพการีได้เลี้ยงดูและให้เราเกิดมา
ตอบลบจริง เห็นด้วยกับ สิ่งที่เราเลือกไม่ได้ และ เลือกได้ สอบ word 3 (ซึ่งจะยากกว่าทุก word) อย่าพลาดให้ครูได้หักแต้มอีกนะ
ลบค่ะ คราวนี้หนูจะไม่พลาดให้อาจารย์หักแน่นอนค่ะ
ลบหนูว่าเค้ามีแรงพลักดัน ต่อสู้ปัญหามากกว่าคนปกติอย่างหนูซะอีก !! ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันทางการศึกษา เค้าตั้งใจเรียนจนจบปริญญาตรี เค้าใช้ความพยายามในการใช้รถเข็นที่เคลื่อนที่ด้วยแบตเตอร์รี่โดยไม่ต้องพึ่งพาใคร แต่คนบางคนแค่เดิน แค่วิ่งก็บ่นว่าเหนื่อย ก็บ่นว่าท้อแล้ว คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราสามารถเลือกที่จะดำเนินชีวิตอย่างไรให้มีความสุขได้ :)
ตอบลบแรงผลักดัน (drive) ครูสงสัยว่า เขามีขายที่ไหนไหม ขายแพงหรือเปล่า
ลบไม่มีขายหรอกค่ะ ทุกอย่างมันมีที่ตัวเราทั้งหมด แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราจะทำมันรึป่าว แค่นั้นเอง :)
ลบการที่เกิดมาเป็นคนพิการนั้นบ้างคนอาจคิดว่าเป็นปมด้อยไปแต่บ้างคนกลับคิดว่าตัวเองนั้นไม่ได้มีปมด้อยอะไรแม้ตัวเองจะพิการ ในสังคมเราก็มีตัวอย่างหลายๆตัวอย่างให้เห็นกันแล้ว ว่าคนที่เกิดมาแล้วพิการนั้นอาจประสบผลสำเร็จในชีวิตมากกว่าคนปกติธรรมดาทั่วๆไปบ้างคนผิดหวังเล็กๆน้อยๆคิดถึงกับอยากจะตายไปสะให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปพวกเขาที่เกิดมาพิการนั้นย่อมเป็นคนที่ต้องมีจิตใจแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปอยู่แล้ว และบ้างคนนั้นทำมาหากินด้วยตัวเองได้ทั้งๆที่ร่างกายนั้นทำอะไรหลายๆอย่างลำบากกว่าคนปกติมาก แต่ลองมองย้อนไปอีกมุมดูแล้วคนปกติร่างกายครบ32ทุกอย่างกลับ ไม่สู้ชีวิตแบบคนพิการได้แต่ขอเงินกันไปวันๆทั้งๆที่ร่างกายตัวเองนั้นพร้อมทำงานมากกว่าคนพิการเป็นไหนๆ ขอแค่มีความคิดที่จะทำและลงมือทำและสู้อดทนในสิ่งที่ทำ แล้วความสำเร็จจะหลุดมือเราไปได้ยังไง :)
ตอบลบชาวพุทธมีความเชื่อ (อิทธิพลจากพราหมณ์) กว่าจะเกิดเป็นคนได้ ต้องเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน หมื่นชาติ แสนชาติ
ลบหรือสรุปง่าย ๆ ว่า
โชคดีมาก ๆ ที่เกิดเป็นคน
ปรัชญ์ใน IE พิมพ์ ment หรือเปล่า ถ้าใช่ อย่าลืมใช้ firefox นะ
หนูเป็นคนอ่อนไหวกับเรื่องแบบนี้มากคะ(พวกประเภทบ่อหน้าตาตื้นคน่ะค่ะ)เมื่กี้ที่ดูyoutubeที่อาจารย์เอาลงแล้วหนูร้องไห้กับเขาอาจจะเป็นเพราะอึ้ง ทึ้ง ตื้นตันกับสิ่งที่เขาทำนับถือจริงๆ พอหันกลับมามองตัวเองกลับเห็นว่าตัวเองมีครบ32แต่ไม่เคยทำอะไรแล้วภูมิใจอย่าผู้ชายคนนี้เลยค่ะ การที่เขามีร่างกายพิการไม่ได้แปลว่าเขาด้อยกว่าคนอื่นเสมอไป เขาทำให้หนูเห็นว่าการได้เกิดมาเป็นคนควรทำในสิ่งที่ตัวเองรักหรือชอบให้ถึงที่สุดจนกว่าจะสำเร็จ ถึงแม้จะท้อแต่ไม่เคยถอย
ตอบลบเช่นกัน
ลบสำหรับคนสูงวัยแล้ว
การอ่านตัวหนังสือ ก็เรียกน้ำตาได้เช่นกัน
คนเราเลือกที่จะเกิดไม่ได้แต่เราเลือกที่จะเป็นได้แต่การที่จะได้มาในสิ่งที่เราต้องการนั้นจะต้องมีอุปสรรค์มากมายรอคอยเราอยู่จากบทความถึงแม้ว่าเค้าจะพิการแต่เค้าก็ประสบความสำเร็จและถือได้ว่ากลายเป็นคนมีชื่อเสียงยิ่งกว่าอีกหลายล้านคนดังนั้นจากบทความนี้สามารถสอนให้เราได้รู้ว่า
ตอบลบ1.คนที่รักเราและยอมรับในสิ่งที่เราเป็นได้เสมอนั่นก็คือแม่ผู้ให้กำเนิดเรามา และคือคนที่จะไม่ทอดทิ้งเรา
2.เราควรทำทุกวันให้ดีที่สุดให้สมกับที่เกิดมาแล้วร่างการสมบูรณ์เพราะขนาดคนที่เขาพิการเขายังดิ้นรนได้ขนาดนี้
3.เราไม่ควรวัดคุณค่าของคนด้วยสายตาแค่ภายนอก แต่เราควรวัดด้วยผลงานของเขา
4.ควรให้โอกาสกับผู้พิการในการแสดงศักยภาพของตนเองและส่งเสริมไปในทางที่ถูกต้อง
1 2 3 4 เช่นเคย แล้วที่แปลกคือ ต้องถึง 4 ด้วย
ลบจากที่ได้ดูวิดีโอหรืออ่านบทความนั้นขนาดคนพิการเค้ายังคิดได้และไม่ยอมยอท้อต่อโชคชะตาส่วนในความคิดฉันคนเราเลือกเกิดไม่ได้แต่เลือกที่จะทำดีได้เราทุกคนเท่าเทียมกันไม่ว่าใครหรือคนพิการเราทุกคนมีโอกาสที่จะทำในสิ่งที่เรารักและทำให้ดีที่สุดอุปสักทุกอย่าจะผ่านมันไปได้ถ้าใจเราสู้และมีกำลังใจคะ^^
ตอบลบแม้แต่คำง่าย ๆ ว่า "ทำให้ดีที่สุด"
ลบก็ยากมาก ที่จะทำ
คนเราเกิดมา เลือกที่จะเกิดไม่ได้ แต่เลือกจะดำเนินชีวิตของตนเองได้ คนพิการใช่ว่าจะพิการทั้งหมด แต่ใจเขาสู้กว่าคนปกติหลายสิบเท่า ความพิการ หลายคนคิดว่าคือปมด้อยแต่ถ้ากลับคิดอีกด้านหนึ่งมันคือแรงผลักดันให้ทำในสิ่งที่ตนเองใฝ่ฝัน ทำในสิ่งที่รัก เพียงแค่คนรอบข้าง คนในสังคมในความเชื่อมั่น ความใส่ใจ และไม่ทอดทิ้ง พวกเขาก็จะเหมือนคนปกติที่สามารถใช้ชีวิตร่วมกับคนในสังคมได้อย่างไม่ลำบาก
ตอบลบ:)
ลบน่ายกย่องคนพิการ แต่ใจไม่พิการ เขาไม่มีเหมือนเราแต่ก็สามารถอยู่บนโลกนี้ได้อย่างมีความสุข มีคุณค่ามากกว่าคนบางคนที่มีครบทั้ง 32 ประการ แม่ของเขาก็ดีนะคะ รักลูก ถึงแม้ว่าจะออกมาไม่ครบก็ตาม ทุกครั้งที่หนูท้อแท้ หนูมักจะดูคลิปที่ให้กำลังใจ อย่างคลิป http://www.youtube.com/watch?v=Icazz2xSMUc&feature=related (YouTube- My Redeemer Lives - Team Hoyt.) ดูแล้วร้องไห้ทุกที แล้วมีกำลังใจฮึดขึ้นสู้ค่ะ :)
ตอบลบดีที่ครูไม่ได้ใช้ clip นี้
ลบจากการดูวีดีโอและได้อ่านเรื่องราวก็ทำให้รู้ว่าขนาดคนมีร่างกายไม่ครบ 32 เขายังสามารถใช้ชีวิตและกล้าทำในสิ่งที่เขาตั้งใจไว้อย่างไม่ท้อแท้เพียงเพราะเขามีความเชื่อมั่นในตัวเองและมีกำลังใจจากคนรอบข้างที่จะดำเนินชีวิตในวันข้างหน้าต่อไปแล้วเราเกิดมาร่างกายครบ 32 เราก็ควรจะทำในสิ่งที่ตนเองฝันและทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
ตอบลบ:)
ลบจากที่หนูอ่าน หนูว่าคนๆ นี้ต้องโชคดีมาก ๆ แน่เลย ที่มีกำลังใจดีๆ ทำให้เค้าใช้ชีวิตแบบปกติได้ โดยที่ไม่มองความพิการของตัวเองเป็นปมด้อย เพราะถ้าคน ๆ นึงที่เกิดมาเป็นแบบนี้แล้วไม่มีกำลังใจก็คงไม่สามารถใช้ชีวิตที่ปกติแบบนี้ได้หรอก คงต้องเกิดความเครียด ความน้อยใจ กดดัน แน่ ๆ
ตอบลบครูมีครบ 32 ก็หมายความว่า ครูยิ่งโชคดีกว่าเขาซิ
ลบแต่ในความเป็นจริง ก็ไม่ได้ใช้ความโชคดีนั่นอย่างเต็มศักยภาพ
หนูคิดว่า ถึงตัวเขาพิการแต่ใจเขาไม่พิการ เขากลับภูมิใจในสิ่งที่ตนเองเป็น เขามีความพยายามมากกว่าคนที่สมประกอบ เขาสามารถทำทุกอย่างได้เหมือนคนปกติ และสิ่งที่น่าชื่นชมคือเขามองโลกในแง่บวก เขาไม่โทษโชคชะตาฟ้าลิขิตที่สร้างเขามา นี่แหละที่น่าชื่นชม
ตอบลบก็ต้องมีประเภท ตัวไม่พิการและใจพิการ ละซิ
ลบ:)
ผมชอบในคลิปวีดีโอมากครับ เพราะผมคิดว่าเมื่อเราชอบในสิ่งไหนถ้าเราตั้งใจและไม่ถ้อต่อโชคชตาของตัวเองแล้วไม่มีสิ่งไหนที่จะมาทำให้เราล้มลงแล้วลุกไม่ได้ ถ้าจะล้มก็สามารถลุกขึ้นมาได้และเมื่อลุกขึ้นมาก็จะแข็งแกร่งมากกว่าเดิม สิ่งที่ดีที่สำคัญที่สุดของคนเราคือใจถ้าใจเราไม่ท้อก็จะสามารถเผชิญกับสิ่งต่างๆๆบนโลกนี้ได้เหมือนคนปกติครับ ผมชอบมากครับเรื่องนี้
ตอบลบคนที่พยายามฝึกเล่นกีตาร์ คงยิ่งเข้าใจ
ลบจากข้อความที่หนูได้อ่าน ทำให้หนูเห็นคนสำคัญของการใช้ชีวิตและเกิดมามีอวัยวะครบ 32 ประการ คนเราเลือกเกิดไม่ได้แต่ก็เลือกที่จะเป็นได้ เขาเป็นคนที่เข้มแข็งมากและไม่ถือว่าความพิการนั้นเป็นอุปสักในการใช้ชีวิตเลย เขาพยายามทำทุกอย่างด้วยตนเอง ดังนั้นเราก็ควรที่จะนำเขาไปเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต
ตอบลบ:)
ลบหนูคิดว่า "กำลังใจและแรงผลักดันที่ดีที่สุด" ตั้งแต่ลืมตาดูโลกมาก็คือความรักจากพ่อแม่ค่ะถึงแม้ว่าเราจะไม่รู้ว่ามันคืออะไรแต่ก็สามารถสัมผัสได้แต่คนเราเกิดมาไม่มีใครที่จะสมบูรณ์แบบไปซะทุกอย่างก็ต้องมีปมด้อยของแต่ละคนเป็นธรรมดาเพียงแต่ว่าเราไม่คิดว่าปมด้อยนั้นมันจะทำให้ชีวิตเราตกต่ำแต่มันกลับจะเป็นแรงผลักดันให้เราสู้ต่อไปให้ถึงที่สุดจนสามารถทำลายปมด้อยปมนั้นไปเพราะเราได้รับกำลังใจที่ดีนั้นเองค่ะ
ตอบลบจิตใจของเขาเข็มเเข็งและเยี่ยมมากครับ
ตอบลบ:)
ลบคนเราเกิดมาไม่เหมือนกัน บางคนอาจเกิดมาครบ 32 แต่อาจจะไม่มีความสุขก็ได้ ซึ่งต่างกับบุคคลเหล่านี้ซึ้งเขาเกิดมาไม่ได้ครบ 32 แต่เขาก็มีความสุข จากการที่เขายอมรับและกล้าที่จะเผชิญกับปัญหาต่าง พยายามทำทุกอย่างได้ด้วยตนเองเหมือนคนปกติ เขาไม่โทษโชคชะตาหรือฟ้าลิขิต เพราะเขาคิดว่า โลกนี้ไม่ควรมีพรมแดนและสิ่งกีดขวางระหว่างมนุษย์ด้วยกันเพียงเพราะคนใดคนหนึ่งเกิดมาพิการ
ตอบลบงานออกช้านะ อนงนาฎ
ลบ